หมายเลขบัญชี: 14095645 ชื่อ: Tamilselvi Govindhasami อีเมล: tamilselvigovindhasami615@gmail.com ผ่านไปเกือบเดือนตั้งแต่ฉันขอถอนเงินจาก @vantagemkts ฉันฝาก $6,000 ทำกำไร $5,000 แล้วพวกเขาปิดหน้าเว็บถอนเงิน หลังจากส่งอีเมลหลายร้อยฉันได้รับการรีเซ็ตบัญชีด้วย "การปรับเงินสด -5000" ลบกำไรทั้งหมดของฉัน ตอนนี้ แม้จะรีเซ็ตแล้วพวกเขายังไม่เปิดหน้าเว็บถอนเงินสำหรับเงินฝากของฉัน พวกเขาต้องการให้ฉันเล่นต่อและสูญเสียทุกอย่าง — นี่คือไม่ยุติธรรมอย่างสมบูรณ์ ฉันได้ส่ง: ✅ รูปบัตรประชาชนของฉัน ✅ รายการธนาคาร ✅ การยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอ ยังไม่มีการตอบรับ เพียงเปิดหน้าเว็บถอนเงินของฉันและคืนเงินฝากของฉัน หยุดเสียเวลาและเล่นเกมกับเงินที่คนทำงานหนักของคน นี่ไม่ใช่วิธีที่โบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมควรทำ

ไม่สามารถถอนเงินได้, บริการลูกค้าไม่ตอบสนอง, เข้าสู่ระบบบัญชีล้มเหลว, เว็บไซต์เทรดเปลี่ยนไปเรื่อยๆhttps://www.tvqxc.cn/service.html?language=en

ชื่อ เครื่องหมายการบริการ ยี่ห้อ และวิธีการระบุอื่น ๆ Goldenfinancelimited, Altitradingltd ป้ายที่ตรวจพบโดยธนาคารแห่งรัสเซีย ป้ายของผู้เข้าร่วมตลาดหลักทรัพย์มืออาชีพที่ผิดกฎหมาย เว็บไซต์ goldenfinancelimited.com, altitradingltd.com วันที่ 06.06.2025

Markets4you เป็นโบรกเกอร์ที่ฉันแนะนำอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่เพิ่งเริ่มต้น มีสเปรดที่ดี ฝากและถอนเงินรวดเร็ว และมีกิจกรรมโบนัสดีๆ มากมาย รหัส MT5 ของฉันคือ 20148712

ปี 2568 สินค้าจีนจะทะลักเข้าไทยมากกว่าเดิม ตัวเลขปิดกิจการยังเพิ่ม ภาคการผลิตของไทยที่กำลังวิกฤต ในปี 2568 อาจจะรุนแรงขึ้นอีก มุมมองของ ดร.อัทธ์​ พิศาลวานิช นักวิชาการ​ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ บอกกับ SPOTLIGHT เพราะสถานการณ์ต่อเนื่องจากปี 2567 จากที่สินค้าจีนราคาถูกเข้ามาทำตลาดในไทยกระทบธุรกิจไทย ต้นทุนสูงกว่าแข่งขันไม่ได้ทำให้ต้องปิดกิจการไป แต่ในปี 2568 หนักกว่านั้นเพราะสินค้าจีนราคาถูกยังคงบุกตลาดในประเทศไทยต่อ แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามามากกว่านั้นคือ ความเสี่ยงของสินค้าที่กำลังจะมีต้นทุนทางภาษีสูงขึ้นอีกหากว่านโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะจีนเจอภาษีสูงถึง 60% กลุ่ม BRICKS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้) ถูกเก็บภาษี 100% ส่วนไทยที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯต่อเนื่องก็อาจะเป็นหนึ่งประเทศเรดาร์ที่สหรัฐฯจ่อขึ้นภาษีนำเข้าด้วยเช่นกัน ดังนั้น การค้าโลกเผชิญ 2 เด้งที่สะเทือนไทย คือ สินค้าจีนที่ขายไปตลาดสหรัฐฯได้ยากจากกำแพงภาษีที่สูงลิ่ว กำลังไหลเข้ามาในอาเซียนอีกระลอกและไทยคือหนึ่งในนั้น ส่วนเด้งที่สองคือ ไทยเองก็อาจโดนการขึ้นภาษีจากสหรัฐฯที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทยเช่นกัน ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยปี 2568 1.สินค้าไทยจะแข่งอย่างไร เป็นคำถามที่ท้าทายผู้ประกอบการธุรกิจอย่างมาก ว่าจะแข่งขันอย่างไรในวันที่สินค้าจีนต้นทุนต่ำกว่า ขายถูกกว่า และผลิตได้มากกว่าขนาดนี้ ซึ่งนอกจากผู้ประกอบการจะต้องเผชิญกับแรงกดดันแล้ว คำถามนี้ ภาครัฐฯควรมีคำตอบและการเตรียมความพร้อมรับมือ ดูแลผู้ประกอบการไทยให้แข็งแร็งขึ้นได้มากกว่าที่เป็นอยู่ได้หรือไม่? 2.แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจแบบยั่งยืนขัดกับนโยบายทรัมป์ นอกจากปี 2568 เป็นปีที่การค้าโลกมีกำแพงภาษีแล้ว ที่ผ่านมายังมีกำแพงจากมาตรฐานสิ่งแวดล้อม เช่น CBAM ในฝั่งยุโรป ที่จะเริ่มใช้ในปี 2569 จะทำให้สินค้าต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมด้วย คำถามคือ สินค้าจากประเทศไทยตอบโจทย์ตลาดโลกได้แล้วหรือยัง? ขณะเดียวกันความผันผวนจากนโยบายของทรัมป์ ที่ดูเหมือนไม่สนับสนุนแนวทางความยั่งยืนเหมือนอดีตที่ผ่านมา จะเปลี่ยนกฏเกณฑ์หรือมาตรฐานใดๆอีกหรือไม่ ความผันผวนเหล่านี้คือสิ่งที่ธุรกิจไทยต้องเตรียมความพร้อม 3.ทุนจีน แรงงานจีนจะเข้าไทยมากขึ้น นอกจากนี้สินค้าจากจีนจะเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นแล้ว ทุนจีนจะเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นเช่นกัน ดร.อัทธ์ มองว่า หลายปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นรวมถึงทุนจีนไม่ใช่เรื่องใหม่เลย เพียงแต่ในวันที่เศรษฐกิจไทยอ่อนแอ ผลกระทบจากความท้าทายที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลรุนแรงขึ้นกว่าในวันที่เศรษฐกิจแข็งแรง ดังนั้นศักยภาพของประเทศไทย รัฐบาลต้องช่วยทำให้พัฒนามากขึ้นในหลายด้านเพราะหากเทียบกับประเทศอื่นๆศักยภาพไทยยังถดถอย ทั้งทักษะบุคคลากรที่ต้องเพิ่มขึ้น การใช้เทคโนโลยี ภาษา ล่วนต้องพัฒนา เช่นเดียวกับสินค้าไทย เช่นสินค้า SME ไทยมีมูลค่าเพิ่มมากแค่ไหน? ปัจจุบันเวียดนามแซงไทยไปมากแล้ว ดร.อัทธ์ ทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยควรมองภาพในอนาคตและหาคำตอบให้ได้ว่า อนาคตในอีก 10 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะเป็นอะไร ? หากยังหาคำตอบไม่ได้ก็ยากที่เราจะเจอโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย และคงจะได้เห็นการเติบโตที่อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องไปอีกยาวนาน ขอบคุณข้อมูลจาก amarintv

สำหรับ FXView แม้จะมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นในกลุ่มเทรดเดอร์ที่ชื่นชอบต้นทุนต่ำและแพลตฟอร์มหลากหลาย แต่คำถามก็ยังคงอยู่ สำนักงานที่อ้างว่าตั้งอยู่ในไซปรัสนั้นมีอยู่จริงหรือไม่? และผู้ใช้งานจริงพูดถึงโบรกนี้ว่าอย่างไร?　　บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงระดับสำนักงาน ผ่านการสำรวจโดย WikiFX พร้อมรีวิวจากแหล่งข้อมูลและผู้ใช้งานจริง เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ด้วยตนเอง ว่า FXView คือโบรกเกอร์ที่ควรเลือกในปี 2025 หรือไม่ ความน่าเชื่อถือและใบอนุญาต　　โบรกเกอร์ FXView ระบุว่า บริษัทอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ Charlgate Ltd ซึ่งจดทะเบียนและได้รับใบอนุญาตจาก CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission) ในไซปรัส ใบอนุญาตเลขที่ 367/18 โดยเป็นหนึ่งในหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินระดับ Tier-2 ที่ได้รับการยอมรับในยุโรป สำรวจสำนักงานจริงในไซปรัส　　ทีมผู้ตรวจสอบของ WikiFX เดินทางไปที่ Kanika Business Center, Office 201B, 28th October Street, Limassol, Cyprus และพบว่า ชื่อ FXView ปรากฏบนป้ายสำนักงานชัดเจน แม้เข้าไปภายในไม่ได้ แต่ก็ยืนยันได้ว่ามีสถานที่จริง ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือพื้นฐานมากกว่าบริษัทที่ไม่มีสถานที่จริง หากอยากอ่านบทความสำรวจเพิ่มเติมคลิก:https://www.wikifx.com/th/dealer/1080904101.html ตัวเลือกบัญชีและเงื่อนไขเทรด　　บัญชี Zero Commission (ขั้นต่ำ $50), Raw ECN, Premium ECN — สเปรดเริ่มที่ 0.0 pips + ค่าคอมมิชชั่นต่ำ รองรับ MT4, MT5, ActTrader และมีระบบ Negative Balance Protection และแยกเงินลูกค้าชัดเจน สินทรัพย์ให้เลือกครบทั้ง Forex, ดัชนี, หุ้น, โลหะ และ (สำหรับลูกค้า non-EU) คริปโต มีฟีเจอร์เสริม เช่น Traders Toolbox, VPS ฟรี, Autochartist และ API Trading คำแนะนำสำหรับนักเทรดไทยเริ่มต้นจากบัญชี Zero หรือ Raw ECN เล็งสเปรดต่ำเคลียร์ค่าธรรมเนียมทดลอง ฝาก–ถอนจริงๆ โดยเฉพาะถอนกำไรเพื่อดูระบบการชำระเงินจริงศึกษาเงื่อนไขโบนัส และใช้ leverage อย่างระมัดระวังโดยไม่เปิดใหญ่เกินไปหากคุณเคยใช้งาน FXView แล้วมีประสบการณ์จริง — เชิญไป เขียนรีวิวบน WikiFX เพื่อช่วยให้ข้อมูลชุมชนเทรดเดอร์ไทยมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ　　　　　　FXView ถือเป็นโบรกเกอร์ที่ครบเครื่องในแง่ของต้นทุนต่ำ สเปรดดี ฟีเจอร์ครบ และใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือ พร้อมสำนักงานจริงในไซปรัส แต่ก่อนตัดสินใจลองใช้เงินจริง ควรทดสอบระบบถอนเงิน และอ่านเงื่อนไขโบนัสอย่างละเอียด หากคุณมีประสบการณ์จริงกับ FXView อย่าลืมช่วยใส่รีวิวที่ WikiFX นะครับ เพื่อให้ข้อมูลนี้มีประโยชน์กับนักเทรดทุกคนครับคุณต้องการดูข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่: https://www.wikifx.com/th/dealer/1080904101.html โดนหลอกโดนโกง อย่าเก็บไว้คนเดียว แอดเหยี่ยวช่วยได้!　　ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง　　คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8　　“เรื่องของคุณมีคุณค่า และอาจช่วยอีกหลายคนให้ไม่ต้องเจอเรื่องแบบเดียวกัน” 　　อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4　　คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

รอเครม มามากกว่า1เดือนแล้วก้ยังไม่ได้

UBS ได้นําเสนอกลยุทธ์การซื้อขายเงินตราต่างประเทศสี่รูปแบบ ท่ามกลางความเคลื่อนไหวล่าสุดของตลาดที่ทําให้ความผันผวนในตลาด FX เพิ่มขึ้นสู่ระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่ปี 2022 ธนาคารได้ชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่เกิดขึ้นจากสภาวะเหล่านี้ โดยแนะนํากลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการขายด้านบวกหรือด้านลบของคู่สกุลเงินบางคู่ โดยไม่ต้องผูกมัดกับอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน UBS ตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงการเทรดที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐในขณะนี้ หลังจากการเทขายดอลลาร์ครั้งล่าสุด ในกรณีของฟรังก์สวิส UBS มองเห็นศักยภาพในการขายด้านลบในคู่ EURCHF ฟรังก์สวิสแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ EURCHF ยังคงมีเสถียรภาพ โดยซื้อขายเหนือระดับ 0.9250 อย่างมาก UBS คาดการณ์ว่าคู่เงินนี้จะรักษาความแข็งแกร่งท่ามกลางความไม่แน่นอนและอาจเพิ่มขึ้นเป็น 0.94 หรือ 0.95 เมื่อมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐฯ ดังนั้น UBS จึงแนะนําให้ขายด้านลบที่ 0.90 สําหรับยูโร จุดสนใจอยู่ที่คู่ EURPLN ซึ่ง UBS เสนอให้ขายด้านบวก EURPLN เพิ่งเคลื่อนไหวจากต่ํากว่า 4.20 ไปที่ประมาณ 4.30 โดยได้รับอิทธิพลจากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในประเทศของโปแลนด์และผลกระทบของภาษีสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจโปแลนด์ แม้จะมีปัจจัยเหล่านี้ UBS คาดว่าความอ่อนแอของสกุลเงินซลอตี้จะถูกจํากัด และแนะนําให้ขายด้านบวกเหนือ 4.40 ในระยะเวลาหนึ่งเดือน บริษัทเตือนว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-สหภาพยุโรปที่เพิ่มขึ้น หรือการลดอัตราดอกเบี้ยที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้โดยธนาคารกลางของโปแลนด์ในวันที่ 7 พฤษภาคม อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อกลยุทธ์นี้ เกี่ยวกับดอลลาร์แคนาดา UBS แนะนําให้ขายด้านลบในคู่ USDCAD ความรู้สึกที่ดีขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-แคนาดาบ่งชี้ถึงการลดลงที่จํากัดจากระดับปัจจุบัน แม้ว่าอาจมีภาษีรายภาคส่วนในอนาคต UBS แนะนําให้ขายด้านลบต่ํากว่า 1.36 ในเดือนหน้า โดยคาดว่า USDCAD จะเพิ่มขึ้นในที่สุด สุดท้าย UBS กล่าวถึงแรนด์ของแอฟริกาใต้ โดยแนะนําให้ขายด้านลบในคู่ USDZAR และ AUDZAR แรนด์ซึ่งเริ่มอ่อนค่าลงเมื่อสงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้น ได้เห็นการฟื้นตัวเนื่องจากการชะลอภาษีและการรวมตัวของรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ UBS พบว่าระดับปัจจุบันน่าดึงดูดสําหรับการขายด้านลบใน USDZAR จาก 18.25 และ AUDZAR จาก 11.60 ในระยะเวลาหนึ่งเดือน อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ว่าแรนด์จะอ่อนค่าลงในระยะกลางเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ความท้าทายภายในประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-แอฟริกาใต้