รู้จัก CME ตลาดฟิวเจอร์สใหญ่กว่าตลาดหุ้น 2 เท่า หลังดาต้าเซ็นเตอร์ล่มทำสะเทือนเทรดเดอร์ทั่วโลก

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 พ.ย.) ตลาดซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สและออปชั่นของ Chicago Mercantile Exchange (CME) ต้องหยุดทำการซื้อขายชั่วคราว เนื่องจากปัญหาทางเทคนิคในดาต้าเซ็นเตอร์ ตามข้อมูลจากโฆษกของ CME Group ประจำสิงคโปร์

ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ สัญญาล่วงหน้าในหลากหลายสินทรัพย์ ตั้งแต่ทองคำ กาแฟ น้ำมันดิบสหรัฐ (WTI) น้ำมันเบนซิน น้ำมันปาล์ม รวมถึงดัชนี S&P 500 futures และ Treasuries นอกจากนี้ แพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าง EBS ซึ่งใช้ในการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศ ก็ได้รับผลกระทบจากการหยุดซื้อขายด้วยเช่นกัน

ธุรกรรมล่าสุดของ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ถูกบันทึกเวลา 10:47 น. ตามเวลาสิงคโปร์ในช่วงเช้าวันศุกร์ หลังวันหยุด Thanksgiving ของสหรัฐ

ทำความรู้จัก CME ตลาดอนุพันธ์ขนาดยักษ์

Chicago Mercantile Exchange (CME) ก่อตั้งขึ้นในปี 1898 โดยเริ่มต้นจากการเป็นตลาดซื้อขายผลผลิตทางการเกษตรในชิคาโก ก่อนจะขยายตัวอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในตลาดซื้อขายอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน CME ครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลายประเภท ตั้งแต่สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น พันธบัตร ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ไปจนถึงสกุลเงินและอัตราดอกเบี้ย

ตลาดนี้ไม่ได้เป็นเพียงที่ให้ซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สและออปชั่นที่อ้างอิงราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น น้ำมัน ข้าวโพด ทองคำ หรือดัชนีหุ้น แต่ยังมีบริการ Clearing ที่ช่วยจับคู่ธุรกรรมและรับประกันความเสี่ยง ทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าการซื้อขายจะดำเนินไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ CME ยังมีเครื่องมือวิเคราะห์และติดตามตลาด เช่น FedWatch Tool ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินโอกาสการปรับดอกเบี้ยของ Fed และระบบข้อมูลอื่น ๆ ที่สนับสนุนการตัดสินใจลงทุน

สินทรัพย์ที่ซื้อขายบน CME มีความหลากหลายและครอบคลุมทุกกลุ่มหลักของตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์อย่างข้าวโพด ถั่วเหลือง กาแฟ น้ำมันดิบ และทองคำ ดัชนีตลาดหุ้นที่นักลงทุนทั่วโลกติดตาม เช่น S&P 500 และ NASDAQ รวมถึงพันธบัตรและตราสารหนี้ เช่น Treasury futures และสัญญาดอกเบี้ย ตลอดจนสกุลเงินหลักและอนุพันธ์พลังงานหรือโลหะ

ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและสภาพคล่องที่สูง CME สามารถรองรับปริมาณการซื้อขายมหาศาลได้ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยให้นักลงทุนทั่วโลกเข้าถึงสัญญาได้อย่างรวดเร็วและโปร่งใส มูลค่ากิจการของ CME สูงถึง 2.3 ล้านล้านบาท และมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานมากกว่า 50% ทำให้ตลาดนี้ไม่เพียงใหญ่ที่สุดในโลก แต่ยังมีอิทธิพลสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั้งในแง่การเก็งกำไรและการบริหารความเสี่ยงของธุรกิจ

เหตุผลที่ CME มีความสำคัญต่อโลกการเงิน

• ปริมาณการซื้อขายสูงมาก เดือนเมษายนที่ผ่านมา CME มีการซื้อขายสัญญาสูงถึง 200,000 ล้านสัญญา สูงกว่าตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของไทยถึง 28 เท่า
• ค่าธรรมเนียมของตลาดอนุพันธ์มักสูงกว่าตลาดหุ้นหรือพันธบัตรทั่วไป และต้นทุนส่วนใหญ่เป็น ต้นทุนคงที่ด้านระบบ ทำให้กำไรสูงเมื่อปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น
• แบรนด์ CME มีมูลค่าสูงถึง 74,000 ล้านบาท ทำให้ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลก

เหตุการณ์ CME ล่มครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า แม้ตลาดจะใหญ่และมีกำไรสูงเพียงใด ปัญหาทางเทคนิคก็สามารถส่งผลต่อสินทรัพย์ทั่วโลกได้ทันที

ผลกระทบต่อนักเทรด Forex

เหตุการณ์ CME ล่ม อาจทำให้ความผันผวนของค่าเงินเพิ่มขึ้นชั่วคราว เนื่องจากตลาดล่วงหน้าและสัญญาฟิวเจอร์สหลายประเภทต้องหยุดซื้อขาย นักลงทุนที่ติดตามคู่เงินหลักอาจเห็นการเคลื่อนไหวที่แรงขึ้นหรือลงจากปัจจัยเหล่านี้ การติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของตลาดล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางกลยุทธ์ และการวางแผนบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบช่วยให้นักเทรดสามารถลดผลกระทบจากความผันผวนที่เกิดขึ้นได้

โดนหลอกโดนโกง อย่าเก็บไว้คนเดียว แอดเหยี่ยวช่วยได้!

ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง

คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4

คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!