简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
สินทรัพย์ปลอดภัยกลายเป็นดาบสองคม ทองคำกำลังเข้าสู่ยุคฟองสบู่? เสี่ยงติดดอย 20 ปี
บทคัดย่อ:ราคาทองคำร่วงแรงกว่า 5.5% ในวันเดียว สะท้อนภาวะการปรับฐานครั้งใหญ่และทำให้นักลงทุนตั้งคำถามถึงฟองสบู่ทองคำ ทองคำแม้ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในแง่การลงทุนกลับมีความเสี่ยงสูง ทั้งจากความผันผวนและระยะเวลาฟื้นตัวที่ยาวนานกว่า หุ้นหรือคริปโต ดังนั้นผู้ลงทุนควรเข้าใจวัฏจักรตลาด กระจายพอร์ต และไม่เทน้ำหนักทั้งหมดในทองคำ

ช่วงนี้ใครที่กำลังถือทองคำหรือกำลังคิดจะเข้าซื้อ อาจต้องตั้งสติให้มั่น เพราะ ราคาทองคำกำลังเจอกับการปรับฐานครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ หลังจากราคาร่วงลงในวันเดียวกว่า 5.5% — เหตุการณ์แบบนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
นักลงทุนทั่วโลกเริ่มตั้งคำถามว่า “นี่คือสัญญาณฟองสบู่ทองคำกำลังจะแตกแล้วหรือเปล่า?”
ทองคำปลอดภัยจริงไหม? หรือเรากำลังเข้าใจผิด
ทองคำถูกยกให้เป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” (Safe Haven) มาช้านาน ไม่ว่าจะในภาวะสงคราม วิกฤตเศรษฐกิจ หรือช่วงเงินเฟ้อพุ่ง แต่ในความเป็นจริง ความปลอดภัยของทองคำ ไม่เท่ากับความเสี่ยงต่ำในการลงทุน
ทองคำอาจปลอดภัยในฐานะวัตถุที่จับต้องได้ ซื้อมาเก็บไว้ ก็ยังอยู่กับคุณแน่นอน ต่างจากหุ้นหรือคริปโตที่มีความซับซ้อนทางระบบสัญญาซื้อขาย แต่ในมุมของ “การลงทุน” ทองคำกลับมีความเสี่ยงซ่อนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะหากซื้อในจุดสูงสุดของรอบตลาด
ใครว่าทองไม่เสี่ยง? มีโอกาสติดดอยนานกว่าหุ้นหรือคริปโต
ข้อมูลย้อนหลังในตลาดทองคำโลก (XAU/USD) ชี้ชัดว่า ทองคำเองก็เคยมี “ยุคมืด” ที่นักลงทุนต้องใช้เวลารอนานเกือบครึ่งชีวิตเพื่อกลับมาที่จุดเดิม
- ในช่วง ทศวรรษ 1980s ราคาทองคำพุ่งแรงก่อนร่วงดิ่งถึง 70% และใช้เวลานานกว่า 26 ปี กว่าจะฟื้นตัวกลับมาที่ระดับเดิม
- ต่อมาในปี 2011 ราคาทองคำปรับตัวลงอีกครั้ง และต้องใช้เวลา เกือบ 9 ปี กว่าจะฟื้นตัวเต็มที่
เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ทองคำกลับใช้เวลาฟื้นตัวยาวนานกว่า:
- หุ้นสหรัฐฯ ในช่วงฟองสบู่ Dotcom Crash ใช้เวลาเพียง 6 ปี
- วิกฤตซับไพรม์ปี 2008 ใช้เวลาเพียง 4 ปี 10 เดือน
- ส่วน Bitcoin แม้จะผันผวนรุนแรง แต่ในทุกวัฏจักร 4 ปีที่ผ่านมา ราคามักกลับขึ้นมายังจุดเดิมเสมอ
ดังนั้น หากฟองสบู่ทองคำแตกจริง ผู้ถือทองในจุดสูงอาจต้องเผชิญ “ภาวะเงินจม” ยาวนานหลายปี และเมื่อรวมผลกระทบจากเงินเฟ้อเข้าไป ราคาที่ขายออกในอนาคตอาจแทบไม่ต่างจากราคาทุนเลยด้วยซ้ำ
ทองคำไม่เพียงเสี่ยง แต่ยังผันผวนสูงกว่าหุ้น
หนึ่งในความเข้าใจผิดของนักลงทุนคือการคิดว่า “ทองคำผันผวนน้อย”
แต่ข้อมูลจริงกลับตรงกันข้าม — ค่าความผันผวน (Standard Deviation) ของทองคำอยู่ที่ 19.60% สูงกว่าหุ้นสหรัฐฯ ที่อยู่เพียง 15.31%
และเมื่อเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนระยะยาวแบบทบต้นต่อปี (Compound Annual Growth Rate):
- หุ้นสหรัฐฯ ทำได้เฉลี่ย 10.89% ต่อปี
- ขณะที่ทองคำอยู่เพียง 8.52% ต่อปี
เมื่อนำค่าความเสี่ยงมาคำนวณเทียบกับผลตอบแทน (Sharpe Ratio) ก็ชัดเจนว่า ทองคำให้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ
บทวิเคราะห์
ทองคำยังคงมีคุณค่าในฐานะ สินทรัพย์หลบภัยของโลก — เพราะไม่ว่าจะยุคใด ทองคำก็ยังถูกใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แต่ในโลกของการลงทุน ความ “ปลอดภัย” ต้องมาพร้อมกับ “เวลา” และ “ความเข้าใจในวัฏจักรตลาด”
ใครที่เชื่อว่า “ซื้อทองยังไงก็ไม่ขาดทุน” อาจต้องคิดใหม่ เพราะหากเข้าซื้อในจุดผิดเวลา คุณอาจต้องรอถึง 20 ปีกว่าจะกลับมาที่ทุนเดิม และในโลกการเงินที่ทุกอย่างเปลี่ยนเร็ว การถือทองอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบ
ทองคำไม่ได้แย่ แต่ต้องเข้าใจว่า มันคือสินทรัพย์ที่เสี่ยงพอๆ กับหุ้นหรือคริปโต หากเข้าผิดจังหวะ
สรุป
ทองคำอาจเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ในเชิงวัตถุ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทองคำก็ยังคงมีมูลค่าในตัวเองเสมอ แต่ในแง่ของการลงทุนแล้ว ทองคำไม่ใช่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยตลอดเวลาอย่างที่หลายคนเข้าใจ เนื่องจากมีความผันผวนสูง และในบางช่วงอาจใช้เวลานานหลายปี กว่าราคาจะฟื้นกลับมาจากขาลง
ดังนั้น ทองคำจึงเหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่มีพอร์ตการลงทุนหลากหลาย ไม่ควรเทน้ำหนักทั้งหมดไว้ที่ทองคำเพียงอย่างเดียว เพราะแม้จะเป็นสินทรัพย์ที่มีประวัติยาวนาน แต่ก็หนีไม่พ้นวัฏจักรตลาดเช่นเดียวกับสินทรัพย์อื่น ๆ
ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรทำความเข้าใจปัจจัยมหภาคอย่างรอบด้าน ทั้งเรื่องเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และค่าเงินดอลลาร์ เพราะทั้งหมดนี้คือแรงขับเคลื่อนสำคัญที่กำหนดทิศทางของ “ราคาทองคำ” ในทุกยุคทุกสมัย
โดนหลอกโดนโกง อย่าเก็บไว้คนเดียว แอดเหยี่ยวช่วยได้!
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

ราคาทองคำร่วงแรงกว่า $118 นักลงทุนเทขายหลังสัญญาณเจรจาการค้าสหรัฐ–จีนคืบหน้า
บทวิเคราะห์ทองคำ

เกิดอะไรขึ้นกับทองคำ? เปิดเหตุผลการร่วงครั้งประวัติศาสตร์ในรอบ 12 ปี
เมื่อคืนวันที่ 21–22 ตุลาคม 2025 ราคาทองคำร่วงแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ ดอกเบี้ยเฟดยังสูง ดอลลาร์แข็งค่า ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น แรงขายทางเทคนิค และความเชื่อมั่นนักลงทุนที่หันไปถือสินทรัพย์เสี่ยงแทน การปรับตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายการเงิน สภาพเศรษฐกิจโลก และความผันผวนของตลาดทองคำ แนะนำให้นักลงทุนมองเป็นโอกาสเรียนรู้และประเมินความเสี่ยง แทนการมองเป็นวิกฤต.

ตลาดสะเทือน! ทองคำพุ่งแรง 3% หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย – นักลงทุนแห่ซื้อรอบใหม่!
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม โดยสัญญาทองคำ COMEX เดือนธันวาคมพุ่ง 3.47% ปิดที่ 4,359.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการเมืองเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ คาดว่าหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ราคาทองคำอาจแตะ 4,500–5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอนาคต ขณะที่ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการเจรจาการค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ ซึ่งยังเป็นตัวแปรหลักต่อทิศทางทองคำในระยะต่อไป.

ทองคำทะยานไม่หยุด! พุ่งแรง $67.4 ทำนิวไฮใหม่ ตลาดลุ้นเฟดหั่นดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้
ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่แตะ 3,976.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนักลงทุนทั่วโลกหันมาถือสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนตุลาคม ปัจจัยเหล่านี้หนุนให้แนวโน้มราคาทองคำยังคงแข็งแกร่ง และอาจแตะระดับ 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้.
