简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
เช็กก่อนเทรด ! คุณเป็นเทรดเดอร์ประเภทไหน ?
บทคัดย่อ:เช็กก่อนเทรด ! คุณเป็นเทรดเดอร์ประเภทไหน..?

เช็กก่อนเทรด ! คุณเป็นเทรดเดอร์ประเภทไหน..? คุณจะเป็นเทรดเดอร์ประเภทใดนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกใช้กลยุทธ์เทรดแบบใด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มักจะมีผลต่อสไตล์การเทรด, ระยะเวลา, วิธีการบริหารความเสี่ยง และองค์ประกอบสำคัญอื่น ๆ ในการเทรด ซึ่งเทรดเดอร์นั้นมีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีแนวทางที่แตกต่างกัน การเลือกรูปแบบที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้มากขึ้น
โดยการเทรดในแต่ละประเภทนั้น ควรเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคุณ จะได้วางแผนการเทรดให้สอดคล้องกับกิจวัตรประวัน และทำให้สามารถสร้างแนวทางในการฝึกตนเอง พร้อมทั้งบริหารแผนการเทรดให้สอดคล้องกับตัวเราได้ ในบทความนี้จะแบ่งประเภทของเทรดเดอร์ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
1. Scalper
Scalping คือ การเทรดที่เน้นความถี่ของออเดอร์ เน้นทำกำไรระยะสั้น ๆ การซื้อขายแบบรวดเร็ว และปิดทำกำไรอย่างรวดเร็ว โดยเทรดเดอร์จะซื้อขายให้จบภายใน 1 วัน และมักจะไม่ถือออเดอร์ไว้ข้ามคืน ยกเว้นแต่สภาวะตลาดไม่เป็นใจจริง ๆ อาจจะมีการถือออเดอร์ไว้ข้ามคืนได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว เทรดเดอร์ที่เทรดแบบ Scalping จะซื้อขายให้จบภายใน 1 วัน และมักจะเฝ้ากราฟเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
การเทรด Scalping จะเหมาะกับคนที่ชอบเข้าไว ออกไว มีเวลาเทรดน้อยต่อวัน มีงานประจำ ไม่ได้มีเวลาเยอะมากในการเทรดแต่ละวัน สามารถโฟกัสการเทรดได้เป็นช่วงเวลา ทำกำไร และเหมาะกับคนที่ไม่ชอบถือออเดอร์นานๆ
2. Day Trader
Day Trade คือ เป็นการซื้อขายที่เน้นทำกำไรแบบเทรดจบในวันเดียว ไม่ถือออเดอร์ข้ามคืนเพื่อหลีกเลี่ยงค่า Swap การเทรดแบบ Day Trade มักติดตามข่าวหรือเหตุการณ์สำคัญในแต่ละวัน โดยจะเน้นทำกำไรในช่วงที่มีข่าวสำคัญประกาศ หากอยากจะเทรดแบบนี้ ต้องมีเวลาเฝ้าหน้าจออย่างต่อเนื่อง โอกาสทำกำไร มากน้อย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ข่าว
การเทรด Day Trade เหมาะกับผู้ที่มีเวลาซื้อขายตลอดวัน มีเวลาให้กราฟ และวิเคราะห์กราฟอย่างสม่ำเสมอ และไม่ปล่อยให้มีออร์เดอร์ค้างคืนและจบออเดอร์ในแต่ละวัน
3. Swing Trader
Swing Trade คือ การเทรดทำกำไรจากความผันผวนของราคา มีทั้งแบบระยะสั้นและแบบระยะยาว ไม่ขึ้นกับระยะเวลา การถือยาวหรือสั้นจะขึ้นอยู่กับ Time Frame ที่ใช้ การเทรดด้วยวิธีนี้จะนิยมใช้การจัดการความเสี่ยงด้วยการทำ Hedging หรือการจัดการความเสี่ยงแบบ เฮดจ์ฟันด์ (Hedge Fund)
SwingTrade จึงเป็นที่นิยม ไม่ว่าจะเป็น Part Time Trader หรือ Full Time Trade เพราะไม่ต้องเฝ้าจอมาก ถือเป็นTrade Setupที่เข้าใจง่ายเหมาะสำหรับมือใหม่ที่พึ่งศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างตลาด
4. Position Trader
Position Trader หรือนักเทรดที่ใช้กลยุทธ์ position จะต้องติดตาม Timeframe ที่นานมากขึ้นก็เพราะว่านักเทรดประเภทนี้ เป็นนักเทรดที่ถือออร์เดอร์นานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนบางครั้งอาจนานเป็นปี โดยมีการศึกษาปัจจัยพื้นฐานและแนวโน้มของตลาดเป็นระยะเวลานานก่อนจะเริ่มเข้าทำการซื้อขายในแต่ละครั้ง ต้นทุนที่สำคัญสำหรับการเทรดแบบนี้ คือ Swap หรือต้นทุนค่าธรรมเนียมทุกประเภท การเทรดในระยะยาวอาจจะต้องลดการใช้ Leverage ให้ได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า การเทรดปะเภทไหนที่ดีที่สุด เพราะต่างก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป และท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ประเภทไหน ก่อนเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนก็ตาม อย่่ลืมตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรีคลิกเลย! https://www.wikifx.com/th/download.html

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

อยากเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว แต่ก่อนจะลาออกชาวออฟฟิศต้องทำสิ่งนี้!!
ก่อนจะลาออกจากงานประจำเพื่อเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมความพร้อมทางการเงินและเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อให้สามารถรับมือความเสี่ยงในตลาดได้อย่างมั่นใจ สิ่งที่ควรทำได้แก่ การเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน 6–12 เดือน ใช้สิทธิ์ประกันสังคมและเงินชดเชยว่างงาน จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างเหมาะสม ขอคืนเงินประกันการทำงาน และเก็บเอกสารสำคัญจากนายจ้างให้ครบ การเตรียมตัวเหล่านี้ช่วยให้การก้าวสู่ชีวิตเทรดเดอร์เต็มเวลาราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น

"ค่า Spread คือดาบสองคม"สิ่งที่มือใหม่ต้องระวังก่อนเทรดจริง
บทความนี้อธิบายความสำคัญของค่า Spread ซึ่งเป็นต้นทุนแฝงที่นักเทรดต้องจ่ายทุกครั้งที่เปิดออเดอร์ในตลาด Forex แม้จะเป็นตัวเลขเล็ก ๆ แต่มีผลโดยตรงต่อกำไร โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้กลยุทธ์ที่ต้องเปิด–ปิดออเดอร์บ่อยอย่าง Scalping หรือ Day Trading ค่า Spread ที่สูงสามารถลดทอนผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญ นักเทรดมือใหม่จึงควรให้ความสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread ต่ำ ระวังช่วงตลาดผันผวนที่ Spread อาจขยายตัว และนำค่าใช้จ่ายส่วนนี้มาคำนวณรวมในระบบบริหารความเสี่ยง บทความสรุปว่า การเข้าใจและจัดการ Spread อย่างถูกต้องจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการเทรด และเสริมความมั่นใจในการทำกำไรในตลาด Forex

ฟอเร็กซ์ vs หุ้น ความเสี่ยงตัวไหนแรงกว่า? เจาะลึกด้วยหลัก Money Management
บทความนี้อธิบายความเสี่ยงของการลงทุนในตลาด Forex และตลาดหุ้น โดยชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงไม่ได้เกิดจากตัวตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการใช้ Leverage การบริหารเงิน และวินัยของเทรดเดอร์เป็นหลัก Forex ถูกจัดว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากความผันผวนรวดเร็วและ Leverage สูง ขณะที่หุ้นมีความผันผวนต่ำกว่าและควบคุมความเสี่ยงได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม หากมีระบบ Money Management ที่ดี Forex ก็สามารถลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสได้เช่นกัน สรุปคือ การเลือกตลาดควรพิจารณาจากสไตล์และวินัยของผู้ลงทุนมากกว่าตัวตลาดเอง.

เช็กปฏิทินข่าวสำคัญประจําสัปดาห์! มีเหตุการณ์อะไรน่าติดตามบ้าง
ปฏิทินข่าว Forex และเหตุการณ์สำคัญประจําสัปดาห์
WikiFX โบรกเกอร์
IC Markets Global
FXTM
Vantage
octa
XM
FOREX.com
IC Markets Global
FXTM
Vantage
octa
XM
FOREX.com
WikiFX โบรกเกอร์
IC Markets Global
FXTM
Vantage
octa
XM
FOREX.com
IC Markets Global
FXTM
Vantage
octa
XM
FOREX.com
